Page 45 - หนังสือรายงานสำรวจค่าใช้จ่าย
P. 45
38
ี
ึ
่
ี
่
การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ IMD ซ่งใช้ efficiency) ลงมาอยู่ในอันดับท 22 (จากอันดับท 20
เกณฑ์พิจารณาในการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขัน ในปี 2560) เนองจากมปัจจัยย่อยภายในปรบอนดบ
ั
ั
ี
ั
ื
่
โดยรวมของประเทศรวม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านศักยภาพทาง ลดลง ได้แก่ ฐานะทางการเงินการคลัง (ลดลงจากอันดับ
ี
เศรษฐกิจ (Economic performance) 2) ด้านประสิทธิภาพ 11 เป็น 18) นโยบายด้านภาษ (ลดลงจากอันดับ 4
ของภาครัฐ (Government efficiency) 3) ด้านประสิทธิภาพ เป็น 6) กรอบการบริหารงานของภาครัฐ (ลดลงจากอันดับ
ของภาคธุรกิจ (Business Efficiency) และ 4) ด้าน 30 เป็น 35) การดําเนินการด้านสังคม (ลดลงจากอันดับ 44
โครงสร้างพ้นฐาน (Infrasstructure) โดยในปี 2561 (2018) เป็น 45) มีเพียงด้านกฏหมายท่เอื้อต่อการดําเนินธุรกิจท่ม ี
ี
ี
ื
ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันในด้านโครงสร้าง อันดับดีขึ้นเล็กน้อย (จากอันดับ 38 เป็น 36) (ดังตารางที่ 9)
ี
่
ื
ึ
พ้นฐานดีข้น (ดังตารางท 9) 3) ปัจจัยด้�นประสิทธิภ�พของภ�คธุรกิจ (Business
efficiency) หมายถึง ปัจจัยสภาวะแวดล้อมของ
1) ปัจจัยด้�นศักยภ�พท�งเศรษฐกิจ (Economic ประเทศท่เอ้อให้ภาคธุรกิจเอกชนสามารถดําเนินงาน
ื
ี
performance) หมายถึง ปัจจัยด้านผลการดําเนินงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่งประกอบด้วย 5 ปัจจัยย่อย
ึ
ึ
ทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซ่งประเมินจากเกณฑ์ ได้แก่ ด้านประสิทธิภาพในการผลิต (Productivity
ตัวช้วัดประกอบด้วย 5 ปัจจัยย่อย ได้แก่ เศรษฐกิจ and Efficiency) ด้านตลาดแรงงาน (Labor Market)
ี
ภายในประเทศ (Domestic Economy) การค้า ด้านการเงิน (Finance) ด้านการบริหารจัดการ
ระหว่างประเทศ (International Trade) การลงทุน (Management Practices) ด้านทัศนคติและ
จากต่างประเทศ (International Investment) ค่านิยม (Attitudes and Values) ในปี 2561 (2018)
การจ้างงาน (Employment) และราคาสินค้าและบริการ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับด้านประสิทธิภาพ
ู
ิ
ี
่
ุ
(Prices) โดยในปี 2561 (2018) ประเทศไทยยังคงมีอันดับ ของภาคธรกจ (Business efficiency) คงทอย่ใน
ื
่
ี
ึ
ความสามารถในการแข่งขันด้านศักยภาพทางเศรษฐกิจ อันดับท 25 เท่าเดิม เน่องจากมีปัจจัยย่อยภายในดีข้น
(Economic performance) อยู่ในอันดับ 10 เท่าเดิม 3 ด้าน ได้แก่ ด้านประสิทธิภาพในการผลิต (จาก อันดับ 41
ื
เน่องจากมีปัจจัยย่อยภายในหลายด้านปรับอันดับลดลง ได้แก่ เป็น 40) ด้านตลาดแรงงาน (จากอันดับ 8 เป็น 6)
ั
ั
ั
ิ
ิ
ด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ (จากอันดับ 33 เป็น 34) ด้าน ด้านทศนคตและค่านยม (จากอนดบ 23 เป็น 17)
ี
่
การค้าระหว่างประเทศ (จากอันดับ 3 เป็น 6) ด้านการจ้างงาน ในขณะท่ด้านการเงินอยู่ในอันดับคงที (อันดับ 24)
(จากอันดับ 3 เป็น 4) มีเพียงด้านราคาสินค้ามีอันดับดีข้น ส่วนด้านการบริหารจัดการมีอันดับลดลง (จากอันดับ 20
ึ
่
(จากอันดับ 28 เป็น 23) ส่วนด้านการลงทุนระหว่างประเทศ เป็น 24) (ดังตารางท 9)
ี
่
ี
ี
ี
ยังคงท่อยู่ท่อันดับ 37 (ดังตารางท 9) 4) ปัจจัยด้�นโครงสร้�งพ้นฐ�น (Infrastructure)
ื
2) ปัจจัยด้�นประสิทธิภ�พของภ�ครัฐ (Government หมายถึง การที่ประเทศมีการบริหารจัดการด้าน
ี
ี
efficiency) หมายถึง ปัจจัยท่เก่ยวข้องกับนโยบาย โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของประเทศให้สามารถ
และการดําเนินงานของภาครัฐท่ส่งเสริมขีดความ ตอบสนองต่อความต้องการของภาคธุรกิจได้ ประกอบ
ี
สามารถในการแข่งขันของประเทศ ซ่งประกอบด้วย ด้วย 5 ปัจจัยย่อย ได้แก่ ด้านสาธารณูปโภค
ึ
ื
5 ปัจจัยย่อย ได้แก่ ฐานะทางการเงินการคลังของภาครัฐ (Public พ้นฐาน (Basic Infrastructure) ด้านโครงสร้างพ้นฐาน
ื
ี
Finance) นโยบายด้านภาษ (Tax Policy) กรอบการบริหารงาน ทางเทคโนโลย (Technological Infrastructure)
ี
ื
ของภาครัฐ (Institutional Framework) กฎหมายท่เอ้อต่อการ ด้านโครงสร้างพ้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Scientific
ื
ี
ดําเนินธุรกิจ (Business Legislation) และกรอบดําเนินการ Infrastructure) ด้านบริการสุขภาพและส่งแวดล้อม (Health
ิ
ด้านสังคม (Societal Framework) ในปี 2561 (2018) and Environment) และด้านการศึกษา (Education)
ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับความสามารถใน ในปี 2561 (2018) ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับปัจจัย
ิ
ั
การแข่งขนด้านประสทธภาพของภาครฐ (Government ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ดีขึ้น 1 อันดับ ขึ้นมา
ั
ิ

